ค้นหาบล็อกนี้

14 มิถุนายน 2555

ขอเปิดตัว 2

จนได้งานทำที่ กทม.โดยหาสมัครสอบไปเรื่อยๆไม่สนใจงานบริษัทของญาติแม่ที่เมืองทองที่แม่อยากให้ไปทำ ทำงานีแรก ปี 2527 จนถึงปี 2538 ย้ายออกจากฮอนด้าคาร์ส ลาดพร้าวมาเป็นหัวหน้าศูนย์แพร่
แล้วก็ลาออกมาทำอู่เอง ปี 2000 จึงตั้งชื่ออู่ว่า อู่ 2000ออโต้เซอร์วิส จนถึงวันนี้ คร่าวในเส้นทางชีวิตครึ่งศตวรรษ ที่เหมือนฝัน ตอนนี้ก็มีรับติดแก๊สด้วย ซ่อมด้วย งานก็มีเรื่อยๆเข้ามาอยู่ในซอยไม่ชอบความวุ่นวายนอกถนน เปิดแบบพอเพียง มีกินมีใช้พอได้ไม่ขัดสน ที่มาเขียนบทความดังหัวข้อข้างบนก็เพราะเกิดจากความรู้สึกที่น้อยใจในชะตาของเรายิ่งนัก จากเคยมีความรู้สึกว่า ทำไมเราถึงจะมีคนมาเชื่อถือเราว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานให้เขาได้ถึงแม้องค์ประกอบภายนอกจากสถานที่ ความน่าเชื่อถือดูน้อยไปหน่อย ไม่เหมือนอู่ใหญ่ๆที่ดูตรงข้ามกับเรา เพราะว่าเคยมีลูกค้าหลายคนที่โทรฯมาสอบถามเรื่องงาน ติดแก๊ส ถึงขนาดมานั่งคุยเป็นเรื่องเป็นราว เราอุตส่าห์ตั้งใจคุยเป็นชั่วโมงมาให้ความหวังเรา
แต่สุดท้ายหายจ้อย เท่าที่สังเกตเขาถามๆเหมือนกับไม่แน่ใจในความสามารถของเรา คงประเมินจากองค์ประกอบต่างๆ เช่น สถานที่ ทำเล ฯลฯ สุดท้ายเขาก็ไปหาอู่ใหญ่ๆ ทั้งๆที่เราก็สาธยายข้อมูลความรู้หลักการ การให้ความมั่้นใจต่างๆว่าเราทำได้ และทำได้ดี ทำได้เยอะยกตัวอย่าง ปกติแล้วแต่ละอู่ที่ติดแก๊สในจังหวัด จะติดได้อู่ละยี่ห้อ เท่าที่ไปอบรมมาเท่านั้น สำหรับอู่เรา สามารถทำได้หลายยี่ห้อ เนื่องจากเรามีความเข้าใจในหลักการ ซึ่งทำให้ทำได้หลายยี่ห้อ...สงสัยเขาหาว่าเราโม้ เขาไม่สน
   ก็ทำใจเหมือนอย่างที่พูดว่าไม่มีใครเชื่อใครง่ายๆว่าใครมีดีหรอก เฮ้อ...ปกติก็ไม่อยากอวดอ้างว่าเก่งกาจอะไร แต่เพียงบอกความจริงให้รู้เท่านั้น อย่างน้อยก็เพื่อการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวก็พยายามที่สุดใครจะว่าไงก็ตาม แต่ขอบอกว่าผมพูดแต่ความจริง ทำได้ก็ต้องได้ ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากันดังนั้นผมจึงอยากเสนอเิปิดตัวว่าผมมีความสามารถต่างๆอะไรบ้างเท่าที่มีตั้งแต่จำความได้ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จะมาอุดหนุนจุนเจือและให้ผมนำความสามารถในงานอาชีพมาสร้างประโยชน์ให้ท่านได้บ้างถ้าไม่บอกก็ไม่รู้
  ผมไม่ถึงกับเป็นคนเก่งมากมายอย่างที่สุด แต่ผมมีความรู้ความสามารถในงานอาชีพช่างยนต์และคอม ฯไม่ได้อวดแต่ขออนุญาตเอามายืนยันนะครับผมเคยแข่งฝีมือช่าง รองชนะเลิศ ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ของประเทศที่ ดินแดง ปี 90 สมัยอยู่ฮอนด้า คืออันดับที่สูงสุด นอกนั้นก็มีอีกบ้าง ใครอยากเห็นก็มาดูได้ที่ข้างฝาบ้านครับ  และขอเอาผลงานและเวลาที่ผ่านมาเป็นเครื่องประกันก็แล้วกันนะครับ อาชีพช่างผมอยากเลิกจริงๆ อยู่กับคำถามตลอด ส่วนมากทำงานเพื่อให้งานเสร็จและจบทำสำเร็จดีใจ จนลืมเรื่องเงินค่าตอบแทน เป็นอย่างนี้จริงๆ
วันนี้มีอารมณ์ อยากเขียนอะไรเล่นๆ หลังจากทำงานคนเดียวมาทั้งวัีนทำไปก็คิดไปเรื่อยๆเปื่อยๆ วางเครื่อง AC 97 เก็บระบบหลังจากเมื่อวานได้เจ้าสองคน ช่วยกันเอาเข้าวันนี้มันไปไหว้ครูช่าง วางเครื่องทีก็เป็นอะไรที่ต้องลุ้นในการรอฟังผลการทำให้ติด แล้วก็ทำให้มันทำงานได้สมบูรณ์ เพราะเครื่องนี้ที่ไปซื้อก็ไม่ได้ลองฟังเสียง สั่งให้เด็กที่ร้านรุ่งโรจน์เตรียมไว้ให้ออกจากแพร่วิ่งรถปานจะเหาะ เด็กพวกนี้ใกล้เลิกงานมันรีบๆทำบางทีก็มั่วๆบอกว่าโอ เค ถึงตาเรามาปล้ำหูตาเหลื่อกกว่าจะเข้าที่ ....วันนี้ก็เช่นกันประกอบเสร็จเกือบบ่ายสอง หลังจากแอบไปงีบหลังข้าวเที่ยงเสียหน่อย พอเครื่องติดได้อย่างที่คิดไว้เลย เดินไม่เรียบ ตั้งวาล์ว เปลียนหัวเทียน สลับสายหัวเทียน เคาะหัวฉีด สุดท้าย ปิด อี จี อาร์ ไงละ่่พี่น้อง พวกนี้เอาอีกแล้ว พอมันเข้าที่ เดินเรียบดี มันช่างสบายกระโหลกอะไรอย่างนั้น ....เฮ้อ...ผ่านไปอีกหนึ่งวัน ชีวิตของช่างยนต์ มันมีแต่ คำถาม ปัญหา สมองได้ทำงานอยู่เรื่อย แต่ละงานที่ผ่านได้ทั้งเหนื่อยกาย เหนีอยสมอง บางทีได้แผลเล็กๆน้อยๆ ประจำคิดแบบน้อยใจหน่อยเมื่อเทียบกับนักธุรกิจ หรือผู้มีตำแหน่งเขาช่างสบายแท้ แค่เซ็นต์แก๊กสองแก๊ก ได้เป็นแสนเป็นล้าน....แต่ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเิองหน่อยก็คิดเสียว่าสมองได้ทำงานจะได้ไม่ฝ่อ ร่างกายที่ออกแรง ได้เหงื่อก็เป็นการออกกำลงกายไปในขณะทำงานก็ดีไปอีกแบบ 5555พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว เ

ขอเปิดตัวในมุมสลัวๆ

เราเชื่อว่าการที่มีใครซักคนที่อยากแนะนำตัวโดยเที่ยวป่าวประกาศบอกใครๆว่าผมเก่ง ผมดี ผมทำอะไรได้บ้าง ฯลฯ นั้นผลที่ได้รับมันจะได้ตรงกันข้ามเสียมากกว่า การแอบซุ่มทำให้มีใครมาเจอแล้วไปบอกต่อ ก็เหมือนกับคำพังเพยที่ว่า "คมในฝัก"นั่นแหละ แต่ยุคนี้ในโลกการสื่อสาร การแข่งขันที่หวังเพียงผลประโยชน์ความร่ำรวยความสำเร็จ การคมในฝักมันไม่ค่อยธรรมชาติ แต่มักจะมีการจัดฉากดูเหมือนเจ้าตัวไม่รู้ตัวมีหน้าม้ามา มีสื่อมา แล้วก็เปิดตัวซะโด่งดังอย่างที่เห็นๆ แล้วอย่างเราที่ทำตัวอยู่ในหลืบ รอให้แมวมองหมามองมาค้นเจอ นี่ก็ครึ่งชีวิตแล้วยังไม่เคยมีใครรู้เลยว่าตัวเรามีอะไรที่น่าจะมีประโยชน์ใช้สอยบ้าง เสียดายถ้าตายก่อนคงเปล่าประโยชน์ ก็เลยตัดสินใจขอเิปิดตัวในมุมสลัวเท่าที่จะมีโอกาส พึ่งสื่อน้อยๆในบล๊อกแห่งนี้ที่ให้อานิสงแก่ผู้ยากไร้อย่างเ่รา ผมเองตั้งแต่เกิดก็เหมือนคนขี้เหม็นทั่วไปคนหนึ่ง มีชีวิตเกิดแล้วเข้าเรียนเมื่อครบกำหนดตามบ้านเมืองเขาทั่วไป เรียนจบก็หางานทำเอพ่อแม่ไม่มีสมบัติมาสร้างกิจการบริัษัทไว้ให้นั่งบริหาร เรียนจบกว่าจะได้ทำงานเป็นหลักแหล่งก็ทำมันทุกอย่างแลกข้าวที่เมืองฟ้า จนไ้ด้งานหลัก