ค้นหาบล็อกนี้

26 มิถุนายน 2552

สรรพสามิตหาเรื่องจับรถอินวอยซ์

ข่าวล่ามาเร็ว

สรรพสามิตภาคที่ 5 เตือน ซื้อรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์หรือบิ๊กไบค์ หากเป็นของไม่เสียภาษีสรรพสามิต อาจมีความผิดตามกฎหมาย และนำไปจดทะเบียนขนส่งไม่ได้

นางภัสฐาปนี มหาวรสินธรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการสรรพสามิตพื้นที่ภาคที่ 5 ครั้งที่ 7/2552 วันที่ 15 มิถุนายน 2552 เกี่ยวกับมาตรการ การจัดเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ว่า ปัจจุบันมีบริษัทฯ ห้างร้านในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ได้นำชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์เก่าหรือชิ้นส่วนนำเข้าจากต่างประเทศ มาประกอบเป็นรถจักรยานยนต์ประเภทรถชอปเปอร์ หรือบิ๊กไบค์ โดยมีนายหน้าเรียกเก็บค่าดำเนินงานเพื่อให้ได้จดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบก ซึ่งตามข้อเท็จจริงนั้นมีหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานตั้งแต่การ อนุญาตนำเข้าชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์เก่าและการเก็บอากรขาเข้า โดยด่านศุลกากรที่นำเข้า กรมศุลกากร เมื่อผ่านการนำเข้าและนำมาประกอบเป็นรถจักรยานยนต์แล้ว ผู้ประกอบรถจักรยานยนต์มีหน้าที่ต้องจดทะเบียน เสียภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาที่มีการประกอบรถจักรยานยนต์ ส่วนการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ นายทะเบียนยานพาหนะ กรมการขนส่งทางบก จะเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบและดำเนินการ ซึ่งหากทางราชการร่วมกันดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐที่สามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นและผู้บริโภค ได้รับความเป็นธรรม

ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 อธิบายว่าเนื่องจากรถจักรยานยนต์เป็นสินค้าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติพิกัด อัตราภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 08.90 ชนิดเครื่องยนต์ 2 จังหวะ อัตราภาษีตามมูลค่า ร้อยละ 5 ส่วนชนิดเครื่องยนต์ 4 จังหวะ อัตราภาษีตามมูลค่า ร้อยละ 3 ของราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม ดังนั้นหากผู้ประกอบการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ใช้อะไหล่ชิ้นส่วนเก่าที่แม้จะ ผ่านการชำระอากรศุลกากรแล้ว ก็ยังมีหน้าที่ต้องชำระภาษีสรรพสามิตสำหรับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตาม กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต หากนำออกขายโดยไม่ยื่นชำระภาษีสรรพสามิตผู้ขายอาจมีความผิดตามมาตรา 162 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ฐานขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่ห้าเท่าถึงสิบห้าเท่าของค่าภาษีที่จะต้องเสีย หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้ซื้อหรือมีไว้ในครอบครองอาจมีความผิดตามมาตรา 161 แห่งพระราชบัญญัติ

...../ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527

-2-

ภาษี สรรพสามิต พ.ศ. 2527 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองเท่าถึงสิบเท่าของค่าภาษีที่จะต้องเสีย

ผู้ อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่ากรมสรรพสามิตได้วางมาตรการเพื่อป้องกันมิให้ผู้นิยมใช้ รถจักรยานยนต์ประเภทชอปเปอร์ หรือบิ๊กไบค์ ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการที่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี จึงได้มีหนังสือขอความร่วมมือต่อกรมการขนส่งทางบกให้แจ้งนายทะเบียนยานพาหนะ ทั่วราชอาณาจักรตรวจสอบหลักฐานการชำระภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ที่ประกอบ จากชิ้นส่วนอะไหล่เก่านำเข้า ก่อนดำเนินการรับจดทะเบียน ซึ่งได้กำชับให้สรรพสามิตทุกพื้นที่ไปดำเนินการประสานงานกับนายทะเบียนยาน พาหนะในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อไปแล้ว ส่วนผู้นิยมใช้รถจักรยานยนต์ชอปเปอร์ หรือ บิ๊กไบค์ ในการเลือกซื้อ ขอให้ซื้อจากร้านผลิตรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนสรรพสามิตแล้วเท่านั้น หรือกรณีซื้อรถจักรยานยนต์เก่ามือสองขอให้ตรวจสอบหลักฐานการชำระภาษีสรรพ สามิต รวมทั้งควรจะขอทราบรายละเอียดข้อมูลในการยื่นคำขอจดทะเบียนขนส่งจากนาย ทะเบียนยานพาหนะในพื้นที่เสียก่อนด้วย หรืออาจขอทราบข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทุกแห่ง

ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพ สามิตภาคที่ 5 กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันในพื้นที่รับผิดชอบ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีผู้ประกอบการจดทะเบียนสรรพสามิตเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์จากชิ้นส่วนเก่า หรือชิ้นส่วนเก่านำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 15 ราย ส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่านำเข้าหลบหนี ภาษีสรรพสามิต ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงปัจจุบัน มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 158 ราย ค่าปรับ 934,556 บาท จึงอาจเป็นไปได้ว่าในแต่ละจังหวัดยังมีผู้ประกอบการผลิตรถจักรยานยนต์จาก ชิ้นส่วนเก่าหรือชิ้นส่วนเก่านำเข้าจากต่างประเทศที่ยังไม่ได้จดทะเบียนตาม กฎหมายสรรพสามิตอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้สรรพสามิตพื้นที่ทุกพื้นที่เร่งดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบตามแหล่งร้านจำหน่ายหรือซ่อมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อย่างทั่วถึงและ ต่อเนื่อง เพื่อควบคุมและป้องกันปัญหาการลักลอบผลิตรถจักรยานยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วน เก่าหรือชิ้นส่วนเก่านำเข้าจากต่างประเทศหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตอย่างมี ประสิทธิภาพและเพื่อคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตในการเลือกซื้อรถจักรยานยนต์ ประเภทชอปเปอร์หรือบิ๊กไบค์ได้โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป

หากมีข้อ สงสัยเกี่ยวกับการชำระภาษีสรรพสามิตหรือพบข้อมูลเบาะแสการหลบหนีภาษีสรรพ สามิตรถจักรยานยนต์สอบถามหรือแจ้งได้ที่ สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 โทร.053-240486 หรือติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทุกแห่ง ทั่วประเทศ

************************************************************************

คณะทำงานโฆษกประจำสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5

สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 เลขที่ 279 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000

โทรศัพท์ 053-240486, 053-243955, 053-249943 โทรสาร ต่อ 112

ไม่มีความคิดเห็น: